- ความสำเร็จครั้งแรกในการส่งมอบโทเค็นควอนตัมโดยใช้ฮาร์ดแวร์ QKD เชิงพาณิชย์ แสดงให้เห็นถึงการยืนยันธุรกรรมที่รวดเร็ว ณ จุดแลกเปลี่ยน นับเป็นก้าวสำคัญสู่ความปลอดภัยทางการเงินด้วยเทคโนโลยีควอนตัมและความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ QKD
- โทเค็นควอนตัมได้รับการออกแบบมาให้มีคุณสมบัติป้องกันการปลอมแปลง รักษาความเป็นส่วนตัว และการชำระบัญชีที่รวดเร็วในตราสารการเงินเดียว โดยไม่เคยมีเทคโนโลยีใดมาก่อนที่มอบประโยชน์ทั้งสามประการนี้รวมกันได้
- ในการทดลองครั้งแรกของโลกที่ใช้ฮาร์ดแวร์สำเร็จรูปนี้ โทเค็นควอนตัมถูกส่งผ่านไฟเบอร์ระยะทาง 10 กิโลเมตรในโตเกียว โดยใช้อุปกรณ์การกระจายกุญแจควอนตัม (QKD) เชิงพาณิชย์จาก NEC*
- นับเป็นก้าวสำคัญสู่การนำโทเค็นควอนตัมที่มีความปลอดภัยสูงไปใช้งานจริง เช่น การรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปแบบโทเค็นและการซื้อขายความเร็วสูง
โตเกียว และบรูมฟิลด์ โคโลราโด, 18 พฤศจิกายน 2567 /PRNewswire/ — ในการทดลองอันเป็นที่ตั้งตารอคอยนี้ Quantinuum ("Quantinuum" สำนักงานใหญ่: บรูมฟิลด์ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา ซีอีโอ: Rajeeb Hazra) ร่วมกับ Mitsui & Co., Ltd. ("Mitsui" สำนักงานใหญ่: โตเกียว ประธานและซีอีโอ: Kenichi Hori) และ NEC ("NEC" สำนักงานใหญ่: โตเกียว ประธานและซีอีโอ: Takayuki Morita) ได้ประกาศความสำเร็จในการส่งมอบโทเค็นควอนตัมผ่านเครือข่ายไฟเบอร์ออปติกระยะทาง 10 กิโลเมตรในญี่ปุ่น นับเป็นครั้งแรกที่การส่งมอบในลักษณะนี้ประสบความสำเร็จ
โทเค็นควอนตัมเป็นตราสารการเงินรูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทางฟิสิกส์ควอนตัม เพื่อตอบสนองความต้องการในการซื้อขายสินทรัพย์ โดยไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการสื่อสารมากเหมือนระบบการเงินแบบดั้งเดิม โทเค็นควอนตัมถูกส่งผ่านเครือข่ายการกระจายกุญแจควอนตัม (QKD) ด้วยไฟเบอร์ออปติก ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก การประกาศความร่วมมือกับ Mitsui ในวันนี้แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพของโทเค็นควอนตัมเป็นที่ยอมรับเพิ่มขึ้นในภาคบริการทางการเงิน
Ilyas Khan ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Quantinuum กล่าวว่า "แรงจูงใจดั้งเดิมของการสื่อสารควอนตัมคือการแลกเปลี่ยนเงิน ตามวิสัยทัศน์ของ Stephen Wiesner วันนี้เราได้แสดงให้เห็นถึงการยกระดับความปลอดภัยในระบบการเงินในโลกแห่งความเป็นจริง โดยใช้อุปกรณ์สื่อสารควอนตัมแบบสำเร็จรูป ความก้าวหน้านี้เป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของความปลอดภัยที่เสริมด้วยควอนตัม ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง และมอบสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้องค์กรธุรกิจนำไปใช้ประโยชน์ได้"
Koji Naniwada รองผู้จัดการทั่วไป แผนกนวัตกรรมควอนตัมของ Mitsui กล่าวว่า "โทเค็นควอนตัมจะเข้ามาเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมและรักษาความเป็นส่วนตัว ประเด็นเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าและพันธมิตรของเราในภาคการเงิน และการสาธิตครั้งนี้เป็นผลลัพธ์ที่มีคุณค่ายิ่งจากความร่วมมือของเรากับ Quantinuum"
Naoki Ishida ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันการค้าและบริการของ NEC กล่าวว่า "เราเป็นรายแรกที่นำเสนอแพลตฟอร์มสร้างระบบโทเค็นควอนตัม โดยใช้อุปกรณ์การกระจายกุญแจควอนตัม (QKD) ของ NEC ซึ่งจากผลการทดลองระหว่าง Mitsui & Co. กับ Quantinuum ครั้งนี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไปเพื่อนำเทคโนโลยีการเข้ารหัสควอนตัมไปใช้ในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม"
โทเค็นควอนตัมได้รับการออกแบบให้ใช้ฟิสิกส์ควอนตัมในการป้องกันการปลอมแปลง ขณะเดียวกันก็รับประกันว่าธุรกรรมสามารถชำระได้เกือบจะในทันที ต่างจากระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมที่ต้องพึ่งพาระบบบัญชีคู่เพื่อป้องกันการใช้เงินซ้ำซ้อน ซึ่งเพิ่มเวลา ค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงให้กับทุกธุรกรรม เนื่องจากต้องตรวจสอบกับระบบดิจิทัลเพื่อยืนยันว่ามีเงินเพียงพอและเพื่อชำระธุรกรรม
แต่โทเค็นควอนตัมใช้ทฤษฎีห้ามการโคลนของฟิสิกส์ควอนตัม เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและการใช้จ่ายซ้ำซ้อน เฉพาะผู้รับที่ตั้งใจไว้เท่านั้นที่จะได้รับข้อมูลโทเค็นที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้เพียงครั้งเดียวในอนาคต วิธีนี้ช่วยให้การชำระธุรกรรมเกิดขึ้นได้เกือบจะในทันที เพราะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหลายระบบหรือรอการยืนยันจากเครือข่าย
จากผลงานล่าสุดของ Quantinuum ที่ร่วมมือกับ HSBC แสดงให้เห็นว่า การรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคควอนตัมกำลังเข้ามามีความจำเป็นเร่งด่วนมากขึ้น ภาคการเงินหันมาให้ความสนใจเทคโนโลยีควอนตัมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ด้วยพลังของธรรมชาติ
หมายเหตุ
(*) อุปกรณ์ที่ NEC จัดหามานั้นบางส่วนได้รับการสนับสนุนจากผลงานของกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร (MIC) ของญี่ปุ่น ภายใต้โครงการ "การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างเครือข่ายการเข้ารหัสควอนตัมระดับโลก" (JPJ008957) ภายใต้ "โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ICT เร่งด่วน" (JPMI00316) และโครงการ "เทคโนโลยีโฟโตนิกส์และควอนตัมเพื่อสังคม 5.0" ของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ (SIP) ข้ามกระทรวง
เกี่ยวกับ Mitsui
Mitsui & Co. เป็นบริษัทการค้าและการลงทุนระดับโลก โดยมีการดำเนินงานในกว่า 60 ประเทศ พร้อมด้วยพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่หลากหลายครอบคลุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ
บริษัทฯ สำรวจหา พัฒนา และขยายธุรกิจโดยร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรที่เชื่อถือได้ทั่วโลก รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยผสานจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์และการข้ามอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนร่วม
Mitsui ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์สำคัญสามประการ สำหรับแผนบริหารจัดการระยะกลางปัจจุบัน ได้แก่ การสนับสนุนอุตสาหกรรมให้เติบโตและพัฒนาด้วยการจัดหาทรัพยากรและวัสดุอย่างมั่นคง พร้อมจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมทั่วโลกให้เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานคาร์บอนต่ำและพลังงานหมุนเวียน และให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพและการเข้าถึงโภชนาการที่ดี เพื่อเสริมพลังให้ผู้คนมีชีวิตที่มีสุขภาพดี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mitsui.com/jp/en/index.html
เกี่ยวกับ Quantinuum
Quantinuum คือบริษัทควอนตัมแบบบูรณาการรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัมและโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ก้าวหน้า เทคโนโลยีของ Quantinuum ขับเคลื่อนความก้าวหน้าสำคัญในด้านการค้นพบวัสดุ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และเอไอควอนตัมรุ่นใหม่ Quantinuum เป็นผู้นำการปฏิวัติด้านการประมวลผลควอนตัมในทวีปต่าง ๆ โดยมีพนักงานกว่า 500 คน รวมถึงนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกว่า 370 คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.quantinuum.com/
เกี่ยวกับ NEC Corporation
NEC Corporation ได้สร้างชื่อในฐานะผู้นำในการบูรณาการเทคโนโลยีไอทีและเครือข่าย พร้อมส่งเสริมคำขวัญแบรนด์อย่าง "Orchestrating a brighter world" ทั้งนี้ NEC ช่วยให้ธุรกิจและชุมชนต่าง ๆ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นทั้งในสังคมและตลาดได้ โดยสนับสนุนคุณค่าทางสังคมด้านความปลอดภัย ความมั่นคง ความเป็นธรรม และประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ที่ทุกคนมีโอกาสพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ NEC ทาง http://www.nec.com
Source : Quantinuum จับมือ Mitsui ทดลองส่งโทเค็นควอนตัมที่ปลอมแปลงไม่ได้ผ่านเครือข่ายไฟเบอร์เป็นครั้งแรก
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Siam News Network.